ซิลิโคน Motiva ดีไหม? - วีรพรรณ คลีนิก

Silicone Motiva ดีไหม?

การตัดสินใจเสริมหน้าอกเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้สนใจเสริมหน้าอกให้ความสำคัญคือ ซิลิโคนที่ใช้ ในตลาดปัจจุบันมีซิลิโคนหลากหลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป หนึ่งในชื่อที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากคือ Motiva

บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับซิลิโคน Motiva เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

Motiva คืออะไร?

Motiva เป็นแบรนด์ซิลิโคนเสริมหน้าอกระดับโลกที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ก่อตั้งขึ้นโดยบริษัท Establishment Labs ซึ่งมีฐานการผลิตและวิจัยพัฒนาอยู่ที่คอสตาริกา Motiva ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย

จุดเด่นและเทคโนโลยีของซิลิโคน Motiva

สิ่งที่ทำให้ซิลิโคน Motiva แตกต่างจากซิลิโคนยี่ห้ออื่น ๆ คือเทคโนโลยีและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนี้:

1. ProgressiveGel®:

ProgressiveGel® ULTIMA™ (ในรุ่น Ergonomix®): เจลซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นและนุ่มนวลเป็นพิเศษ ออกแบบมาให้มีการไหลตัวคล้ายกับเนื้อเยื่อเต้านมธรรมชาติ ทำให้รูปทรงของหน้าอกเปลี่ยนแปลงไปตามอิริยาบถ ไม่ว่าจะยืน เดิน หรือนอน ก็ดูเป็นธรรมชาติ
ProgressiveGel® PLUS™ (ในรุ่น Round Plus): เจลซิลิโคนที่มีความแน่นกระชับมากขึ้น ให้รูปทรงที่กลมสวยและมีการยกกระชับบริเวณเนินอกมากขึ้น
ProgressiveGel® (ในรุ่น Round): เจลซิลิโคนที่มีความนุ่มในระดับมาตรฐาน ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ

เทคโนโลยี ProgressiveGel® นี้ช่วยลดปัญหาเรื่องซิลิโคนเป็นก้อนแข็ง (capsular contracture) และให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

2. SmoothSilk®/SilkSurface®:

ผิวสัมผัสของซิลิโคน Motiva มีลักษณะพิเศษที่เรียกว่า SmoothSilk® หรือ SilkSurface® ซึ่งเป็นผิวเรียบละเอียดระดับนาโน (nanotextured surface) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ:

ลดการอักเสบและการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม: ผิวสัมผัสที่เรียบละเอียดนี้ช่วยลดการระคายเคืองเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ร่างกายสร้างผังผืด (capsule) รอบซิลิโคนน้อยลง
ลดความเสี่ยงของการเกิดผังผืดรัดซิลิโคน (capsular contracture): ผังผืดที่เกิดขึ้นน้อยและมีความนุ่มยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดโอกาสที่ผังผืดจะรัดตัวจนทำให้หน้าอกแข็งหรือผิดรูป
ลดการเกาะติดของแบคทีเรีย (bacterial adhesion): พื้นผิวที่เรียบละเอียดช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อหลังผ่าตัด

3. TrueMonobloc®:

เทคโนโลยี TrueMonobloc® เป็นการออกแบบให้เปลือกซิลิโคนและเจลซิลิโคนภายในเชื่อมต่อกันเป็นโครงสร้างเดียว ทำให้ซิลิโคนมีความแข็งแรง ทนทาน และลดความเสี่ยงของการแตกรั่ว

4. BluSeal®:

BluSeal® เป็นชั้นป้องกันสีฟ้าที่อยู่ภายในเปลือกซิลิโคน ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ความสมบูรณ์ของเปลือกซิลิโคน ช่วยให้ศัลยแพทย์มั่นใจได้ว่าซิลิโคนไม่มีรอยรั่วหรือความเสียหายก่อนการใส่

5. Q Inside Safety Technology™ (เฉพาะในบางรุ่น):

Q Inside Safety Technology™ เป็นเทคโนโลยีฝังไมโครชิพขนาดเล็กไว้ภายในซิลิโคน ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับซิลิโคนได้ด้วยเครื่องสแกนภายนอก โดยข้อมูลที่บันทึกไว้ ได้แก่:

หมายเลขผลิตภัณฑ์ (serial number)
ขนาดและปริมาตรของซิลิโคน
วันที่ผลิต
ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลของซิลิโคนในอนาคต หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิลิโคนที่ฝังไว้

6. MotivaHybrid® (ในบางรุ่น):

MotivaHybrid® เป็นการผสมผสานระหว่างซิลิโคนเจลและเทคโนโลยี B-Lite® Microspheres ซึ่งเป็นทรงกลมขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบา ทำให้ซิลิโคนมีน้ำหนักเบากว่าซิลิโคนทั่วไปถึง 30% โดยยังคงให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกขนาดใหญ่แต่กังวลเรื่องน้ำหนักของซิลิโคน

7. Motiva Ergonomix2® (รุ่นใหม่ล่าสุด):

เป็นพัฒนาการล่าสุดของเทคโนโลยี Ergonomix® ที่ให้ความนุ่มนวลและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการปรับปรุงคุณสมบัติอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและความปลอดภัยสูงสุด
Silicone Motiva ดีไหม? ข้อดีของซิลิโคน Motiva

จากเทคโนโลยีและคุณสมบัติที่กล่าวมา ซิลิโคน Motiva มีข้อดีหลายประการที่น่าสนใจ ดังนี้:

ความเป็นธรรมชาติสูง: ด้วยเทคโนโลยี ProgressiveGel® โดยเฉพาะรุ่น Ergonomix® ทำให้หน้าอกมีรูปทรงและการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติคล้ายกับหน้าอกจริง
สัมผัสนุ่มนวล: เจลซิลิโคนคุณภาพสูงให้สัมผัสที่นุ่มและเป็นธรรมชาติ
ความปลอดภัยสูง: เทคโนโลยี SmoothSilk®/SilkSurface®, TrueMonobloc®, และ BluSeal® ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ผังผืดรัดซิลิโคน การแตกรั่ว และการติดเชื้อ
ความทนทาน: วัสดุคุณภาพสูงและการออกแบบที่แข็งแรงทำให้ซิลิโคน Motiva มีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน (แม้ว่าซิลิโคนจะไม่ใช่สิ่งที่อยู่ได้ถาวรตลอดชีวิต)
การรับประกัน: Motiva มีโปรแกรมการรับประกันผลิตภัณฑ์ (Product Replacement Policy) และการรับประกันภาวะแทรกซ้อน (Always Confident Warranty®) ซึ่งให้ความมั่นใจแก่ผู้เข้ารับการผ่าตัด
เทคโนโลยี Q Inside Safety Technology™: ช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลของซิลิโคนได้ง่ายและแม่นยำในอนาคต
มีหลากหลายรุ่นและขนาดให้เลือก: Motiva มีซิลิโคนหลากหลายรูปทรง (กลมและหยดน้ำ) ขนาด และระดับความนูน เพื่อตอบสนองความต้องการและสรีระของแต่ละบุคคล
ลดความจำเป็นในการนวดหน้าอก: ด้วยผิวสัมผัส SmoothSilk®/SilkSurface® ที่ลดการสร้างผังผืด ทำให้หลายกรณีไม่จำเป็นต้องนวดหน้าอกหลังการผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศัลยแพทย์)
แผลผ่าตัดขนาดเล็ก: ซิลิโคน Motiva โดยเฉพาะรุ่น Ergonomix2® มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถใส่ผ่านแผลผ่าตัดขนาดเล็กได้ (Motiva MinimalScar®) ซึ่งอาจช่วยลดรอยแผลเป็น

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับซิลิโคน Motiva

แม้ว่าซิลิโคน Motiva จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีบางสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาเช่นกัน:

ราคา: โดยทั่วไปแล้ว ซิลิโคน Motiva มักมีราคาสูงกว่าซิลิโคนยี่ห้ออื่น ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ใส่เข้าไป
ความพร้อมใช้งาน: ในบางพื้นที่หรือบางสถานพยาบาล ซิลิโคน Motiva อาจไม่มีตัวเลือกหลากหลายเท่ากับยี่ห้ออื่น ๆ
เทคโนโลยี Q Inside Safety Technology™: แม้จะเป็นข้อดีในด้านความปลอดภัย แต่บางคนอาจรู้สึกไม่สบายใจที่มีไมโครชิพฝังอยู่ในร่างกาย

ซิลิโคน Motiva เหมาะกับใคร?

ซิลิโคน Motiva เหมาะสำหรับผู้ที่:

ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติทั้งรูปทรงและการเคลื่อนไหว
ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ต้องการซิลิโคนที่ให้สัมผัสนุ่มนวลคล้ายหน้าอกจริง
ต้องการลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น ผังผืดรัดซิลิโคน
ต้องการความมั่นใจด้วยการรับประกันผลิตภัณฑ์และภาวะแทรกซ้อน
ยินดีที่จะจ่ายในราคาสูงขึ้นเพื่อคุณภาพและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า

เปรียบเทียบซิลิโคน Motiva กับยี่ห้ออื่น ๆ

ในตลาดซิลิโคนเสริมหน้าอก ยังมียี่ห้ออื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น Mentor, Allergan, Sebbin เป็นต้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป:

Mentor: เป็นยี่ห้อที่มีประวัติยาวนานและได้รับการยอมรับในเรื่องความน่าเชื่อถือ มีทั้งซิลิโคนผิวเรียบและผิวทราย รวมถึงเจลที่มีความคงตัวสูง (cohesive gel)
Allergan: เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งซิลิโคนและน้ำเกลือ มีรูปทรงและขนาดให้เลือกมากมาย
Sebbin: เป็นยี่ห้อจากฝรั่งเศสที่เน้นซิลิโคนเจล มีผิวสัมผัสแบบ Microtexture และ Nanotexture
อื่น ๆ: ยังมียี่ห้ออื่น ๆ เช่น Nagor, Eurosilicone ที่มีคุณภาพและเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

การเปรียบเทียบระหว่างยี่ห้อต่าง ๆ ควรพิจารณาถึง:

เทคโนโลยีและวัสดุที่ใช้
รูปทรงและขนาดที่มีให้เลือก
ผิวสัมผัสของซิลิโคน
ความนุ่มนวลและความเป็นธรรมชาติ
ความปลอดภัยและอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน
การรับประกัน
ราคา
ความพร้อมใช้งานของศัลยแพทย์และสถานพยาบาล

การตัดสินใจเลือกยี่ห้อซิลิโคนที่ดีที่สุดควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ประเมินสรีระ ความต้องการ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ซิลิโคน Motiva คืออะไร การเลือกขนาดและรูปทรงของซิลิโคน Motiva

Motiva มีซิลิโคนหลากหลายรูปทรงและขนาด เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับสรีระและความต้องการของแต่ละบุคคลได้มากที่สุด:

รูปทรง:
- Round: รูปทรงกลม ให้ความอวบอิ่มบริเวณเนินอก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าอกที่ดูเต็มและมีส่วนโค้งเว้าชัดเจน
- Ergonomix®: รูปทรงหยดน้ำตามธรรมชาติ ออกแบบมาให้ปรับเปลี่ยนรูปทรงตามอิริยาบถ ให้ความรู้สึกและรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติ
- Round Plus: รูปทรงกลมที่มีความนูนบริเวณส่วนบนมากขึ้น ให้การยกกระชับและเติมเต็มเนินอกได้ดี
ขนาด: มีขนาดให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจะวัดเป็นปริมาตรในหน่วยลูกบาศก์เซนติเมตร (cc) การเลือกขนาดขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึงขนาดหน้าอกเดิมและสรีระโดยรวม
ความนูน (Projection): Motiva มีระดับความนูนของซิลิโคนให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่ต่ำ ปานกลาง ไปจนถึงสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับโครงสร้างหน้าอกและความต้องการ

ศัลยแพทย์จะทำการวัดสัดส่วนของหน้าอกและลำตัว เพื่อช่วยในการเลือกขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมที่สุด รวมถึงอาจมีการใช้เทคโนโลยี 3D simulation เพื่อให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดเห็นภาพผลลัพธ์คร่าว ๆ ก่อนการตัดสินใจ

ความปลอดภัยและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่าซิลิโคน Motiva จะได้รับการออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด แต่การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนทุกยี่ห้อก็มีความเสี่ยงและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น:

ผังผืดรัดซิลิโคน (Capsular Contracture): เป็นภาวะที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการที่ร่างกายสร้างผังผืดหนาและแข็งรอบซิลิโคน ทำให้หน้าอกแข็ง ผิดรูป หรือรู้สึกเจ็บ (Motiva มีเทคโนโลยี SmoothSilk®/SilkSurface® ที่ช่วยลดความเสี่ยงนี้)
ซิลิโคนแตกหรือรั่ว (Implant Rupture): แม้ว่าซิลิโคน Motiva จะมีความทนทานสูง แต่ก็อาจเกิดการแตกหรือรั่วได้จากอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ หรือการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน (Motiva มีเทคโนโลยี TrueMonobloc® ที่ช่วยลดความเสี่ยงนี้)
การติดเชื้อ (Infection): เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด
เลือดคั่ง (Hematoma) หรือน้ำเหลืองคั่ง (Seroma): การสะสมของเลือดหรือน้ำเหลืองบริเวณรอบซิลิโคน
ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงบริเวณหัวนมและหน้าอก: อาจมีความรู้สึกชา ไวเกินไป หรือเปลี่ยนแปลงไป
ตำแหน่งซิลิโคนเคลื่อนที่ (Implant Malposition): ซิลิโคนอาจเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม ทำให้หน้าอกไม่สมมาตร
คลื่นริ้ว (Rippling): อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีเนื้อเยื่อเต้านมน้อย โดยเฉพาะเมื่อใช้ซิลิโคนผิวเรียบ (Motiva มีผิวสัมผัส SmoothSilk® ที่ช่วยลดปัญหานี้)
BIA-ALCL (Breast Implant-Associated Anaplastic Large Cell Lymphoma): เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดหนึ่งที่พบได้น้อยมากในผู้ที่เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวทราย (ปัจจุบันยังไม่มีรายงานผู้ป่วย BIA-ALCL ที่เกี่ยวข้องกับซิลิโคน Motiva ที่มีผิวสัมผัส SmoothSilk®/SilkSurface®)

การเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้

การดูแลรักษาหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน Motiva

การดูแลรักษาหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน โดยทั่วไปแล้ว ศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำดังนี้:

พักผ่อนอย่างเพียงพอ: หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในช่วงแรก
สวมใส่ผ้ารัดหน้าอก (surgical bra): เพื่อช่วยลดอาการบวมและพยุงซิลิโคนให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง: เช่น ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ
ทำความสะอาดแผลผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์: เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
หลีกเลี่ยงการยกของหนัก: อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ: ในช่วงแรกหลังการผ่าตัด
มาพบแพทย์ตามนัดหมาย: เพื่อติดตามผลการรักษาและประเมินอาการ
สังเกตความผิดปกติ: หากมีอาการบวมแดง ร้อน หรือเจ็บมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที

ในกรณีส่วนใหญ่ ซิลิโคน Motiva ที่มีผิวสัมผัส SmoothSilk®/SilkSurface® อาจไม่จำเป็นต้องนวดหน้าอก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์เป็นรายบุคคล

ระยะเวลาการใช้งานของซิลิโคน Motiva

ซิลิโคนเสริมหน้าอก ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ได้ถาวรตลอดชีวิต แม้ว่าซิลิโคน Motiva จะมีคุณภาพสูงและมีความทนทาน แต่ก็อาจมีการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานได้ โดยทั่วไปแล้ว ซิลิโคนเสริมหน้าอกอาจมีอายุการใช้งานประมาณ 10-20 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพของซิลิโคน เทคนิคการผ่าตัด การดูแลรักษา และสรีระของแต่ละบุคคล

Motiva มีโปรแกรมการรับประกันผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะให้การเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ในกรณีที่เกิดการแตกหรือรั่วภายในระยะเวลาที่กำหนด (ตามเงื่อนไขของบริษัท) นอกจากนี้ ยังมีการรับประกันภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง เช่น ผังผืดรัดซิลิโคนระดับรุนแรง

ผู้ที่เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนควรเข้ารับการตรวจติดตามกับศัลยแพทย์เป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินสภาพของซิลิโคนและสุขภาพของหน้าอก หากมีอาการผิดปกติ หรือเมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสม ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้พิจารณาการเปลี่ยนซิลิโคนใหม่

สรุปเกี่ยวกับซิลิโคน Motiva

ซิลิโคน Motiva เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกและให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติ ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยเทคโนโลยี ProgressiveGel®, SmoothSilk®/SilkSurface®, TrueMonobloc® และอื่น ๆ ทำให้ซิลิโคน Motiva มีข้อดีหลายประการ เช่น ให้สัมผัสและรูปทรงที่เป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และมีความทนทาน

อย่างไรก็ตาม การเลือกซิลิโคน Motiva หรือยี่ห้ออื่น ๆ ควรพิจารณาถึงความต้องการ งบประมาณ และปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ

***สนใจเสริมหน้าอกเพื่อเพิ่มความมั่นใจใส่ชุดไหนก็ปัง จนใครๆ ก็อยากเหลียวมอง ติดต่อสอบถาม/นัดปรึกษาฟรี ได้เลยค่ะ***